7 เหตุผลที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องมีเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ Facebook

ตั้่งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา เป็นช่วงที่ธุรกิจขนาดเล็ก ต้องกับเริ่มคิดว่า การลงทุนทำเพจและโฆษณานั้น คุ้มมากน้อยแค่ไหน กับการที่ Facebook Post Reach ตกลงเรื่อยๆ (อ่านรายละเอียดได้ที่ บทความ  Facebook Marketing อัพเดท เรื่องที่ต้องรู้ ต้นเดือน ม.ค.2018 ) และแท้จริงแล้ว เครื่องมือการตลาดออนไลน์ ใช่ว่าจะมีแต่ Facebook อย่างเดียว ที่จะทำเงินได้บนโลกออนไลน์

เครื่องมือหนึ่งที่มีมานมนาน อย่างเว็บไซต์ แม้ว่าจะมีบทบาทน้อยลงเมื่อ Social Media ยักษ์ใหญ่ แผลงฤทธิ์มาหลายปี จนทำให้คนทำธุรกิจออนไลน์หน้าใหม่ หลงลืมการสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำเงินให้นักธุรกิจออนไลน์รุ่นเก๋าหลายคนในอดีต

เพื่อให้เข้าใจว่า ทำไม เว็บไซต์ จึงต้องกลับมามีบทบาทอีกครั้ง

ต่อไปนี้เป็นเหตุผลที่คุณอ่านแล้ว ต้องกับไปคิดว่า คุณควรจะก้าวต่อไปบนออนไลน์ ด้วยการเพิ่มสื่ออย่างเว็บไซต์มั้ย

7 เหตุผลที่ต้องมีเว็บไซต์

1. สร้างความน่าเชื่อถือ เหมือนมีนามบัตรบนโลกออนไลน์

เว็บไซต์เหมือนมีนามบัตรออนไลน์

การมีเว็บไซต์สร้างความน่าเชื่อถือได้ระดับนึง เพราะการมีเว็บไซต์ไม่ได้ง่ายเหมือนการสร้าง Facebook Page แต่ที่พูดไม่ได้หมายความว่า การมีเว็บไซต์จะเป็นเรื่องยากนะครับ

แต่ขั้นตอนในการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองนั้น คุณต้องทั้งหาชื่อ จดโดเมนเนม เช่าที่เก็บเว็บไซต์หรือ Hosting ต้องออกแบบเอง หรือหาคนออกแบบเว็บไซต์ แล้วต้องคิดว่าเนื้อหาหรือ Content ในเว็บไซต์ควรเป็นอย่างไร แล้ว Website Usability  หรือการออกแบบเว็บไซต์เพื่อให้คนเข้าเว็บไซต์ ใช้งานได้ง่าย หาข้อมูลได้ง่ายในเว็บไซต์ จนเกิดความประทับใจ มี ประสบการณ์ที่ดี หรือที่เรียกว่า Excellent User Experiences นั้น ต้องผ่านการคิดการออกแบบ ไหนจะต้องทำรูปให้น่าดูดึงดูดคนดูอีก ดูช่างเป็นเรื่องซับซ้อนสำหรับมือใหม่

แต่การเปิด Facebook Page นั้นง่ายมากๆ ขอแค่คุณมี Facebook Profile หรือที่เราเรียก เฟสๆ นั่นแหล่ะ ก็ได้ละ นั่นหมายความว่า การปลอมแปลง เลยง่ายมากๆ ซึ่งเราก็ได้เห็นตัวอย่างของ คนดัง หรือ เซเลบโดนปลอม Facebook Page มาก็เยอะ

” การมีเว็บไซต์เหมือนกับการมีนามบัตรประทับตราบริษัท “

หรือ แบรนด์คุณ ถ้ากลุ่มลูกค้าได้สัมผัสเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือของคุณยิ่งทำให้ประทับใจยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น การสร้างความเชื่อถือให้เว็บไซต์ประเภทค้าขายออนไลน์ ก็มีหน่วยงานของรัฐยินดีให้เราจดทะเบียนขอรับรองว่าเว็บไซต์เราน่าเชื่อถือก็มีหลายที่ เช่น DBD Registered ฯลฯ

รายละเอียดการจดทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิคส์ >> http://www.dbd.go.th/ewt_news.php?nid=469406639&filename=index

2. เชื่อมต่อสื่อหรือ Social Platform อื่นได้ เพิ่ม Brand Visibility

การมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง เราสามารถนำเนื้อหาต่างๆในเว็บไซต์ กระจายไปยังสื่ออื่นๆ ได้

สมมติว่า คุณอยากเอาบทความที่มีในหัวมากมาย เขียนลงบน Facebook อย่างเดียว แต่ก็อยากเผยแพร่ลงในสื่ออื่นที่เหมาะสมด้วย สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ  Copy & Paste เรื่องเดิมลงในสื่ออีกสื่อ เช่นอยากเอาลงใน Linkedin หรือ ลงใน Blogger.com ก็ต้องทำ Copy & Paste ลง 2 ครั้ง แต่การมีเว็บไซต์ คุณแค่  Copy ลิ๊งก์ของบทความไป Paste เท่านี้ คนอ่านก็สามารถเข้าไปอ่านบทความเดียวกันกับที่มีบท Facebook ได้

ถือว่า เป็นการเพิ่ม Brand Visibility หรือ การมองเห็นแบรนด์ของคุณ อีกด้วย

3. ลูกค้าที่สนใจเราจริงๆ ไม่ได้ต้องการดูแค่ Facebook

เพราะ เครื่องมือออนไลน์แต่ละอย่าง มีหน้าที่ต่างกัน เราสามารถใช้ Facebook Page ในการเปิดตัวแบรนด์เราให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่เมื่อกลุ่มเป้าหมายสนใจเราและต้องการซื้อของเรา เค้าย่อมต้องหารข้อมูลเพิ่มเติม การมีเว็บไซต์ เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้น ทำให้เค้ามั่นใจว่า แบรนด์เหล่านั้นเอาจริงๆเอาจังกับการนำเสนอตัวเองผ่านออนไลน์มากกว่าแบรนด์อื่น

อย่างไรก็ตาม การมีเว็บไซต์แล้วปล่อยนิ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเพียงเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลขององค์กรอย่างเดียวในลักษณะของ Company PR Website ความถี่ในการอัพเดท อาจจะไม่ต้องถี่มาก เพราะคนที่เข้ามาหาข้อมูลบริษัทผ่านเว็บไซต์ อาจเข้ามมาสัก 1-3 ครั้ง และก็ไม่ได้คาดหวังจะต้องมีการอัพเดทข้อมูลตลอด

แต่หากเว็บไซต์ประเภท Blog บทความ หรือ ในเว็บไซต์ มีบทความดึงความสนใจของลูกค้าผ่านบทความ เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะปล่อยให้เว็บไซต์ให้นิ่งๆ เดือนนึงอัพที ลูกค้าย่อมลืมคุณแน่ ที่สำคัญ เว็บไซต์คุณอาจจะตกอันดับหน้าแรกใน Google ก็เป็นได้ เพราะ Google เองชอบเว็บไซต์ที่มีการอัพเดทสม่ำเสมอ

4. ควบคุมภาพ/วิดีโอที่ต้องการนำเสนอได้

การมีสื่อของเราเองอย่าง เว็บไซต์ทำให้เราสามารถคุมทั้งขนาดภาพ คุณภาพของภาพ การนำเสนอภาพบางภาพที่ไม่สามารถแสดงได้ในเฟสบุ้คได้ เช่น หากคุณขายอาหารเสริมประเภทลดเนื้อหนัง เพิ่มกล้ามเนื้อ ฯลฯ ตัวโฆษณาก็เสี่ยงต่อการไม่ได้รับการอนุมัติจาก Facebook ก็ได้

แต่การมีเว็บไซต์ คุณสามารถสร้างหน้าเว็บเพจที่เป็น Landing Page หรือ Sales Page แล้วยิงโฆษณาโดยใช้รูปภาพหรือวิดิโอที่เข้าเงื่อนไข Facebook แล้วให้กลุ่มเป้ากดปุ่มให้มาที่หน้า Landing Page ก็ยังได้

5. ค้นหาเจอใน Search Engine ได้ง่ายกว่า

เนื่องจาก โพสท์ส่วนใหญ่ใน Social Media มักจะเป็นลักษณะ Short Form Content เพราะคนที่เล่น Facebook หรือ โซเชี่ยลอื่นๆ ชอบอ่านอะไรสั้นๆ หรือดูแค่ภาพ หรือ วิดีโอสั้นๆ

แต่สำหรับเว็บไซต์ สิ่งที่จะทำให้ google ประทับใจจนทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสยืนอยู่ในหน้าแรกๆของ Google (ซึ่งเรียกวิธีนี้ว่า Search engine optimiztion หรือ SEO) ก็คือ Long Form Content หรือ เนื้อหาขนาดยาว นั่นเอง

นั่นแสดงว่า หากเทียบโอกาสที่คนจะค้นหาใน google แล้วเจอเว็บไซต์ของคุณย่อมมากกว่าจะเจอ Facebook Page

6. หารายได้เสริมได้ หรือ สร้างรายได้แบบไม่ต้องคุยหลังไมค์ใน Inbox

หลายเว็บไซต์ทำเว็บไซต์เพื่อขายของออนไลน์ หรือที่เรียกว่า e-Commerce Website ซึ่งเว็บไซต์แบบนี้ คนซื้อมักซื้อแบบไม่ต้องคุยกับคนขายแต่ให้หน้าเว็บ คุยแทนด้วยภาพหรือ วิดีโอแทน และก็ปิดการขายหน้าเว็บไซต์ทันที ถ้าเค้าถูกใจสินค้าของคุณ

และก็มีอีกหลายเว็บไซต์ ที่เขียนบทความแบบ Blog (อย่างเว็บไซต์ kruboydigital.com ก็เป็น Blog เหมือนกันครับ ) แล้วหารายได้ผ่าน Affiliate Banner หรือ เอาโฆษณามาแปะไว้ในเว็บไซต์ เพื่อให้คนอ่านคลิก แล้วเจ้าของเว็บไซต์ก็จะได้เงินส่วนแบ่งจากการคลิกโฆษณา พูดง่ายๆ ก็ให้เค้าเช่าที่แปะป้ายโฆษณานั่นแหล่ะครับ อย่่างเช่นของ Google ก็มีบริการ Google Adsense สำหรับคนที่อยากมีรายได้จากเว็บไซต์โดยการแปะโฆษณาของ Google Ads เข้าไปอย่างในรูป

Google Adsense

7. ดึงคนที่ไม่ได้เล่น Facebook เข้ามาพบเราได้

แม้ว่าในปัจจุบัน จะมีผู้ใช้ Facebook ถึงเฉพาะในไทยก็ปาเข้าไป 40 ล้านคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้อินเตอร์เน็ต จะใช้ Facebook เป็นประจำ หลายๆครั้ง หลายๆท่าน ออนไลน์เพื่อหาข้อมูลที่ตัวเองอยากรู้ หาของเล่นที่ตัวเองชอบ ฯลฯ จาก Google

นั่นหมายความว่า คุณก็ต้องไปปรากฏตัวใน Google การที่จะปรากฏตัวใน Google ก็ทำ SEO หรือ ไม่ก็ ซื่อ Google Adwords แต่ทั้งน้ีทั้งนั้น ก็ต้องมีเว็บไซต์อยู่ดี เพราะการเอา Facebook Page ขึ้นอันดับต้นๆ ในหน้าแรก Google นั้นยากกว่าเว็บไซต์ หรือ การเอาเพจไปลงโฆษณา  Google Adwords ก็ยังแพงกว่าอยู่ดี

นี่แหล่ะครับ ข้อดีที่มีอยู่ 7 อย่างของการมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง

ขอให้ทุกท่านสำเร็จครับ

– ครูบอย –

*******************************************

สำหรับคนที่อ่านบทความจบ สนใจเรียนสร้างเว็บไซต์ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
เร็วๆนี้ครูบอยจะมีคอร์สสอนสร้างเว็บไซต์แบบเรียนกลุ่มเล็กไม่เกิน 5 คน

ติดตาม/ด้ทาง Line @id : @kruboydigital ครับ

*******************************************

6 thoughts on “7 เหตุผลที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องมีเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ Facebook

  1. จิตรลดา อุดมเวทยนันท์ says:

    เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ ที่ทุกคนควรมา platform หลักเหมือนเป็นบ้านของเราเอง

  2. Pingback: สร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองหรือจ้างเค้าดีนะ ? - Kruboydigital.com -ครูบอย ปอกเปลือก ธุรกิจการตลาดออนไลน์

  3. Pingback: การที่เว็บไซต์เรามีลิงก์ใน Social Media เยอะ ใช่ว่าทำให้อันดับดีใน Search Engine ! - Digital Marketing Matters! by KruboyDigital Somkiat Lilitprapun

  4. Pingback: เมื่อ Social Media พากันล่ม พร้อมวิธีป้องกันเมื่อ Content หาย

ลงความเห็น