ครั้งที่แล้ว เราว่ากันด้วยเรื่องของ Database Marketing และ Direct Marketing ไปบ้างแล้ว ครั้งนี้ถึงทีของ CRM บ้างแล้ว
CRM นั้นหรือคือฉันใด คืออะไรล่ะ
หลายคนยังมีความเข้าใจผิดว่า CRM นั้นเป็นซอฟแวร์แบบหนึ่งที่นำมาใช้เพื่อการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น ซอฟแวร์ CRM ที่ว่านั้นเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้การทำ CRM ดำเนินไปได้สะดวกยิ่งขึ้น
CRM หรือชื่อเต็มก็คือ ” Customer Relationship Management (การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า์ )” มี กูรู(Guru) หลายท่านได้ให้คำจำกัดความเอาไว้มากมาย แต่ผู้เขียนขอสรุปเพื่อให้เข้าใจง่ายดังนี้
CRM นั้นเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจอันหนึ่งที่มีเป้าหมายเพื่อที่สร้างความสัมพันธ์อันดีัระหว่างลูกค้าหรือคู่ค้ากับบริษัทในระยะยาว โดยมุ่งที่จะศึกษาความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจอย่างต่อเนื่องและนำมาซึ่งผลกำไรในระยะยาว ซึ่งการที่จะบรรลุจุดประสงค์ของ CRM ได้นั้นจำเป็นจะต้องปรับปรุงกระบวนการทำงานของพนักงานทั้งองค์กร โดยเฉพาะส่วนที่จะต้องมาการติดต่อกับลูกค้าโดยตรง นอกจากนี้ ยังต้องมีการศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้น การที่จะศึกษาความต้องการของลูกค้าได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลของลูกค้าจากหลาย ๆ ด้าน และนั่นคือที่มาของซอฟแวร์ CRM ที่มีบทบาทในการเก็บข้อมูลเหล่านั้น เพื่อนำมาวิเคราะห์ และจัดการแคมเปญ CRM ที่เหมาะสมกับลูกค้าคนนั้น ๆ หรือกลุ่มนั้น ๆ (Customization)
จะเห็นว่าการนำ กลยุทธ์ CRM มาใช้ก็เพื่อที่จะรักษาฐานลูกค้าในระยะยาว ฉะนั้น บทบาทหลักของ CRM นั้นก็จะมุ่งไปยังลูกค้าปัจจุบันเป็นสำคัญและพยายามสร้างความจงรักภักดี(Loyalty) ให้เกิดกับลูกค้า และลดกอัตราการสูญเสียลูกค้า(Churn Rate) หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ CRM ถูกนำมาใช้ก็คือ การหาลูกค้าใหม่นั้นมีต้นทุนในการได้มาสูงกว่าลูกค้าเก่ามาก แต่หากเราปฏิบัติไม่ดี หรือเสนอในสิ่งที่ลูกค้าไม่พอใจผลที่ได้ไม่ใช่แต่เพียงลูกค้าคนนั้น ๆ จะตีจากไป เผลอ ๆ ลูกค้าคนนั้นยังบอกต่อ ๆ กันไปอีกหลายคนนั่นย่อมส่งผลกระทบต่อภาพพจน์และผลกำไรในระยะยาวขององค์กรได
Database หัวใจของ CRM
หัวใจสำคัญของทำ CRM คือ การรู้จักลูกค้าอย่างถ่องแท้และลึกซึ้ง จากนั้น นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าพึงพอใจหรือเกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวังไว้ แต่อยู่ในระดับที่ลูกค้ายังพึงพอใจอยู่
การที่จะสนองตอบเป้าหมายของ CRM นั้นจำเป็นจะต้องมีการศึกษาข้อมูลต่างๆของลูกค้า พฤติกรรมต่างๆ ของลูกค้าที่มีกับสินค้าหรือบริการ หรือตัวบริษัทเอง รวมถึงประสบการณ์ที่ลูกค้าได้จากการใช้สินค้าและบริการของบริษัท นำมาวิเคราะห์ ตีความ และำนำเสนอสิ่งพึงใจอย่างต่อเนื่อง
และการที่จะทำให้กระบวนการวิเคราะห์ ตีความ และำนำเสนอนั้นต้องอาศัยระบบฐานข้อมูลที่ดีพอ เห็นมั้ยละ่ครับว่า Database เริ่มถูกนำมาใช้แล้ว แต่การใช้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่การมุ่งทำ Database Marketing เท่านั้่น แต่นำมาใช้เพื่อให้เกิดกระบวนการ”สนองความพอใจลูกค้า” ของทั้งองค์กร มาถึงตรงนี้ จะขอยกตัวอย่างของการนำ Database ของลูกค้ามาเพื่องาน CRM ให้ดูสักตัวอย่างหนึ่ง
ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งศึกษาข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลลูกค้าภายใต้โปรแกรม CRM พบว่า ลูกค้าเกรด A กลุ่มหนึ่งที่ชอบการเดินทางแบบผจญภัยในป่า ทุกครั้งที่จะไปเดินป่ามักจะมาซื้อของใช้ที่จำเป็นที่ห้างทุกครั้ง เมื่อรู้ดังนี้ ทางห้างจึงออกแคมเปญ “ท่องป่าสุดคุ้ม ประจำปี ” โดยทางห้างจัดโปรแกรมการเดินป่าในราคาพิเศษ ซึ่งราคานี้รวมสินค้าที่จำเป็นในการเดินป่าที่ลูกค้ากลุ่มนั้นมักจะซื้อเป็นประจำไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ลูกค้าพึงพอใจอย่างมากและกลับมาร่วมแคมเปญนี้อีกทุก ๆ ปี
จะเห็นได้ว่า ห้างนี้ทำการเก็บข้อมูลลูกค้า วิเคราะห์ และนำเสนอสิ่งที่เป็นที่ต้องใจกับลูกค้า จนได้รับผลตอบรับอันน่าพอใจทั้งฝ่ายลูกค้าและห้างนั้น แต่การที่่จะได้มาซึ่งแคมเปญที่ตรงใจลูกค้าฐานข้อมูลที่ดีย่อมมีส่วนสำคัญ และฐานข้อมูลที่ดีนั้นใช่เพียงแค่มีชื่อ-สกุล ที่อยู่ลูกค้า เท่านั้นก็จบ แต่ต้องอาศัยข้อมูลหลายๆ ด้าน อย่างที่เคยบอกไว้ใน CRM & database marketing ความเหมือนที่แตกต่าง(ภาคหนึ่ง)
CRM ในโลก Internet
คนทำเว็บ ก็อยากให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้ามาชมและติดตามเป็นประจำแต่ด้วยจำนวนเว็บมากมายในโลกอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้มีอำนาจในการสั่งการเพียงปลายนิ้วสัมผัสก็ชี้เป็นชี้ตายให้กับเว็บนั้น ๆ ได้พอสมควร
และสำหรับ E-Commerce ด้วยแล้ว หากไม่สามารถมัดใจลูกค้าหรือผู้ใช้ให้อยู่หมัดก็ย่อมสูญเสียลูกค้าให้กับคู่แข่งได้ง่าย ๆ เพียงหนึ่งคลิ๊ก
ฉะนั้น CRM จึงถูกนำมาใช้บนโลกอินเตอร์เน็ตเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในการนำกลยุทธ์ CRM มาใช้ก็คือ
Amazon.com เว็บไซต์ขายหนังสือ และสินค้าระดับโลก หากคุณได้สมัครเป็นสมาชิกของ amazon หรือสั่งซื้อสินค้าจากเว็บนี้สิ่งที่คุณจะได้รับคือเมื่อคุณเข้าไปเว็บนี้ครั้งต่อไป คุณก็จะพบว่ารายการสินค้าหรือหนังสือที่คุณเจอบนหน้าเว็บ คือหมวดรายการสินค้าหรือหนังสือที่คุณเคยซื้อหรือเคยค้นหามาก่อนหน้านี้เอง ซึ่งทางรายการเหล่านั้นจะแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล เพราะทาง Amazon พยายามศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้หรือสมาชิกและเก็บมันไว้ในฐานข้อมูลและเมื่อลูกค้าคนเดิมกลับเข้าเว็บอีกครั้ง Amazon ก็จะเตือนความทรงจำของคุณว่าครั้งก่อน คุณเคยซื้อสินค้าประเภทใดไปและนำเสนอสินค้าประเภทเดียวกันและใกล้เคียงกับที่คุณสนใจ นำมาเสนอให้คุณเพื่อเพิ่มโอกาสการขายสินค้า (Upselling) ให้มากขึ้น
นอกจากการนำ CRM มาใช้ในการทำธุรกิจบน internet แล้ว Internet ก็สามารถเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำ CRM เช่นการเพิ่มช่องทางการติดต่อระหว่างลูกค้ากับบริษัท ทางอีเมลล์หรือเว็บไซต์ หรือการเปิดช่องทางในการขายสินค้าอีกช่องหนึ่งเพื่ออำนวยความสะดวกกับลูกค้ากลุ่มที่รักการชอปปิ้งอยู่ที่บ้านโดยผ่าน internet
*******************
เรื่องเก่าจากเว็บไซต์ของครูบอย – thinkandclick dot com (ย้อนดู ต้นฉบับ >> https://web.archive.org/web/20111228020406/http://www.thinkandclick.com/emarketing/crm-database-part2.php )