ปัญหาคอมพิวเตอร์ซีเคียวริตี้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ชาวเน็ตกลัวตกเป็นเหยื่อและใช้เวลาบนเน็ตน้อยลง รวมไปถึงซื้อของผ่านเน็ตน้อยลงด้วย
คอนซูเมอร์รีพอร์ตสเว็บวอต์ช (Consumer Reports WebWatch) รายงานว่า จากการสำรวจชาวเน็ตอเมริกันที่อายุเกิน 18 ปีจำนวน 1,500 คนพบว่า 30% ใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง, 80% กังวลว่าจะมีคนมาขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขที่บัตรประชาชนหรือเลขที่บัตรเครดิต ขณะออนไลน์บนอินเทอร์เน็ต, 90% เลิกกรอกข้อมูลส่วนตัวบนเว็บไซต์ และ 25% เลิกซื้อของผ่านเน็ต
ความกลัวคือตัวแปรทำคัญที่ทำให้เกิดพฤติกรรมดังกล่าว 38% ยอมรับว่าให้ความสำคัญและอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว (privacy policy) มากขึ้น และ 30% ซื้อของออนไลน์น้อยลง
“สิ่งที่น่าสนใจคือ พวกเขาเกิดความกลัวในขณะออนไลน์” โบ เบรนเดิลเลอร์ (Beau Brendler) ผู้อำนวยการเว็บวอต์ช กล่าว
ในรายงานยังระบุว่า ผู้บริโภคต้องการให้รัฐบาลและนักกฎหมายใส่ใจในเรื่องนี้มากขึ้น ออกกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น รวมถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในการป้องกัน หรือตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
“คนใช้เน็ตกำลังต้องการบางสิ่งซึ่งสำคัญต่ออนาคตของอินเทอร์เน็ต เราไม่อยากบอกว่าใกล้ถึงจุดจบของอินเทอร์เน็ต แต่ควรต้องมีการดำเนินการบางอย่าง” เขากล่าว
ผลที่ตามมาก็คือ ผู้บริโภคคาดหวังมาตรฐานของเว็บไซต์ไว้สูง พวกเขาจะเลือกเข้าเฉพาะเว็บที่พวกเขาเชื่อถือหรือไว้ใจได้เท่านั้น
88% ระบุว่ามาตรการการเก็บรักษาข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเว็บไซต์, 80% บอกว่าความน่าเชื่อถือของข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญกว่า, 80% ให้ความสำคัญกับการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล, 50% เน้นเรื่องชื่อเจ้าของเว็บไซต์ และ 70% ให้ความสำคัญกับการอัพเดทของข้อมูลบนเว็บ
30 ต.ค. 2548 ไทย – โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 ตุลาคม 2548
***********
เรื่องเก่าจากเว็บไซต์ของครูบอย – thinkandclick dot com (ย้อนดู ต้นฉบับ > https://web.archive.org/web/20081121105801/http://www.thinkandclick.com/news/e-security-news103005.php )