หลายคนอาจจะทราบข่าว Facebook ได้ปรับอัลกอริทึ่มโดย ลดความสำคัญและการเข้าถึง (Reach ) ของโพสต์ประเภทเรียก Like เรียกแชร์ หรือที่เรียกว่า Enagement Bait (อ่านข่าวได้ที่ > https://newsroom.fb.com/news/2017/12/news-feed-fyi-fighting-engagement-bait-on-facebook/
แม้ว่าการปรับครัั้งนี้จะเป็นผลดีต่อผู้ใช้ Facebook ในแง่ที่ไม่ต้องเจอโพสต์น่ารำคาญที่เอาแต่ขอ Engagament แต่ก็ต้องสร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของเพจและแอดมินเป็นอย่างยิ่ง เพราะ Reach ที่ตกต่ำอยู่แล้ว เดิมการที่จะทำให้ Reach และ Engagement สูงขึ้น จำเป็นต้องมีการขอให้ เม้นท์ให้แชร์กันบ้าง แต่เมื่อเจออัลกอริทึ่มล่าสุดเข้าไป ที่เริ่มส่งผลบ้างแล้ว
ในฐานะที่ครูเองก็เป็นแอดมินหลายเพจ และผู้อ่านส่วนหนึ่งน่าจะบริหารเพจอยู่เช่นกัน เราก็น่าจะทำความเข้าใจกับอัลกอริทึ่มล่าสุดของ Facebook ให้มากขึ้น (สำหรับคนที่ไม่สะดวกอ่านยาวๆ กดดูคลิปสรุป)
Reach ตกต่ำยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
Buzzsumo ได้ทำการศึกษาโพสต์ทุกรูปแบบเพื่อติดตามอัตราการเข้าถึง หรือ Reach ของโพสต์จำนวน 880 ล้านโพสต์จากเพจต่างๆ รวมทั้งเพจของแบรนด์ต่างๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2559 – มิ.ย. 2560 พบว่า การเข้าถึงโพสต์ตกลงไปเฉลี่ยราวๆ 20% จาก Reach ของช่วงที่ผ่านมา โดยจะตกลงอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ช่วง ม.ค. 2560 ตามรูป (สำหรับข้อมูลหลัง มิ.ย. 60 ครูบอยจะนำเสนออีกครั้งเมื่อมีข้อมูลครบนะครับ )
” แต่การตกลงของ Post Reach นั้น จะมีผลกระทบน้อยมากกับโพสต์ที่เป็น Authentic Post หรือ โพสต์ที่มีเนื้อหาแบบ Original และน่าเชื่อถือ “
ทำความเข้าใจกับ Engagement Bait ที่แอดมินเพจต้องสะพรึง
เคยเห็นกันใช้มั้ยครับ แบบนี้ ” 1 แชร์ ได้ 1 ธรรมทาน ” (ครูล่ะ งง ธรรมมะของคนยุค 4.0 ฮ่าๆๆๆๆ ) หรือ แท็กเพื่อนถ้า…. ฯลฯ เรามาทำความเข้าใจกันหน่อยว่า Engagement Bait ต่างๆ มีประเภทอะไรบ้าง
แต่ก่อนที่จะเล่าให้ฟัง จะขอบอกว่า อัลกอริทึ่มใหม่ ไม่ได้ใช้กับแค่เพจเท่านั้น แต่รวมถึงโพสต์ในโปรไฟล์ส่วนตัวด้วย ใครที่ เคยโพสต์ขายของในเฟสส่วนตัว งานนี้พึงระวังไว้ว่า ถ้ามีการขอให้ Like React หรือ แชร์ ก็มีสิทธิโดนลดการเห็นโพสต์ของเราบนฟีดเพื่อนด้วยนะครับ
ประเภทต่างของ Engagement Bait ส่วนใหญ่ของคุณเป็นแบบไหน ?
เรามาดูกันทีละประเภทเลยครับ
1. Tag Biating ล่อให้แท็ก
ก็โพสต์ประเภท ขอให้เราแท็กเพื่อน หรือ คนสนิท
เพื่อให้คนมาดูโพสต์ ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก ๆ สิ่งที่ได้คือ
คนที่ไม่ใช่แฟนเพจแต่เป็นเพื่อนของแฟนเพจก็ได้มาเห็น
เป็นการเพิ่ม Page Visibility(หรือการมองเห็นเพจ) ถ้าเห็นบ่อยๆ ก็เริ่มจำได้
ขี้คร้านจะไม่ให้มา LIke Page ให้มันรู้ไป
ตัวอย่างของโพสต์แบบนี้ ก็ แท็กเพื่อน 5 คนที่คิดว่าเค้ามีไม่มีแฟนร่วมกับคุณ
หรือแบบ แท็กคนข้างๆ ที่คิดว่าโพสต์นี้มีประโยชน์ ฯลฯ
2. Comment Biatingล่อให้เม้นท์
เคยเจอมั้ย ประเภท เม้นท์ 1 ถ้าชอบคลิปนี้
เม้นท์ 2 ถ้าขำคลิปนี้มาก … ฯลฯ
เป็นโพสต์ที่เรีัยก Reach ได้พอสมควร
เพราะ การที่จะให้คนเห็นโพสต์เรามากขึ้นก็เท่ากับเพิ่มความสำคัญให้กับโพสต์
เหมือนกับเวลามีข่าวอะไรมา ยิ่งคนแสดงความเห็น ยิ่งทำให้ข่าวระบือไกล
ยิ่งทำให้โพสต์ไปแสดงในฟีดมากขึ้้น
จึงมีคนนำวิธีนี้ไปใช้ในการสร้าง Reach และ Engagement ให้มากขึ้น
3. Vote Biating ล่อให้โหวต
โพสต์แบบนี้ ในเมืองไทย ครูไม่ค่อยเห็น
แต่ในต่างประเทศใช้กันเยอะครับ
พวก โหวต 1 ถ้าคุณ ชอบ ผญ/ผช ด้านซ้าย
โหวต 2 ถ้าคุณชอบ ผญ/ผช ด้านขวา
อะไรแบบนี้ อีกอย่าง Facebook เริ่มแรกเดิมที
ก็เกิดจากที่พี่มาร์ก ซัคฯ สร้างขึ้นมาเพื่อให้คนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้โหวตว่า
ผู้หญิงในรูปคุณคิดว่า Hot or Not เธอคนนี้ ฮ๊อทหรือไม่ โหวตมา ! (ตอนก่อตั้งพี่มาร์กใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า FaceMash)
โพสต์แบบนี้ ท้าทายคนชอบเล่นเกมส์โหวต ซึ่งก็มีเยอะเสียด้วย เป็นการเพิ่ม Reach และ Engagement ได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุผลเดียวกันกับ ข้อ 2
4. React Biating ล่อให้กดแสดงอารมณ์
โพสต์ประเภทขอให้กด ไลก์ เลิฟ ว้าว เศร้า หรือ โกรธ ก็โดนเหมือนกัน
ปกติ ที่คนไทยใช้ก็เช่น ชอบก็ไลก์เลย รอไร ?
หรือ ชอบก็ไลก์ รักก็กด Love เลย อย่าเก็บไว้
ก็เป็นที่นิยมกันมากเหมือนกันครับ
เชื่อได้ว่า แอดมินเพจกว่าครึ่ง ต้องเคยใช้มุขนี้แน่ ๆ
และเชื่อได้ว่า เพื่อนก็จะได้เห็นโพสต์ในฟีดที่โชว์ว่า …..ได้แสดงอารมณ์ในโพสต์นี้/…. reacted this post
และเราก็ตามไปดูว่าเค้ากดโพสต์อะไร เพราะความอยากรู้ Reach ของโพสต์นั้นก็เพิ่มโดยปริยาย
จากนี้ไป ก็ทำได้แต่ โดนลด Reach ชัวร์ ๆ
5. Share Biating ล่อให้แชร์
แบบสุดท้าย ครูบอยเชื่อว่า แอดมินเกิน 90 %
ต้องเคยใช้แน่นอน เพราะ การได้แชร์ คือสุดยอดของการเพิ่ม Reach & Engagement
แม้ว่าช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ถ้าใครสังเกตุ
จะเห็นว่า แม้ว่ามีคนแชร์ไปแล้ว จะเห็นว่า อาจจะมีเพื่อนของคนแชร์เห็นไม่เยอะนัก
แต่ได้แชร์สักนิดก็ยังดี
จากนี้ไป ต้องระวังอย่างมาก เพราะ Reach คุณที่ไม่ค่อยเป็นดั่งใจอยู่แล้ว ก็ยิ่งขุดดินลงไปลึกอีก
แฟนเพจนี่แทบจะไม่เห็นกันเลยทีเดียว
ทางออกจากปัญหา Reach และ Engagement ตก
หมดกันเลยทีนี้ ใช่มั้ย แอดมินเพจ ยังหรอกครับ หน้าที่ของคนเเป็นแอดมินเพจคือ ทำยังไงให้คนเห็น คนมีส่วนร่วม ให้คนซื้อของ และไม่จนปัญหา content มาลงไม่ได้
คำถาม : Facebook รู้ได้ไง ว่าเราโพสต์ในแบบ Engagement Bait ต่าง ๆ
คำตอบคือ ยุคนี้ ระบบของ Facebook ก้าวไปไกลมากถึงขนาดเรียนรู้ภาษามนุษย์และนำมาประมวลผลได้ แม้จะไม่ถูก 100 % ในช่วงแรกๆ แต่เมื่อมันผ่านขั้นตอน Deep Learning นัยว่า จักรกลเรียนรู้เรามากกว่าเราเรียนรู้ตัวเราเอง แล้วประมวลผล พร้อมทั้ง ทำนายว่าเราน่าจะคิด จะทำอะไรต่อบ้าง ได้ด้วย โดยจักรกลนี้จะใช้ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ในการเรียนรู้มนุษย์
ถ้าใครนึกไม่ออก ลองนึกถึงหนังวิทยาศาสตร์ที่มีหุ่นยนต์คิดได้เองครับ แต่ปัจจุบันยังไม่ถึงสเต็ปนั้น
ในตอนนี้ Facebook เองก็มีการตั้ง Facebook AI Academy หรือ FAIR เพื่อให้ วิศวกรของ Facebook ได้เรียนรู้เรื่องของ AI
ที่นัี้ มาดูข้อเสนอแนะที่ครูบอยจะบอก
1. ทำ Content แบบ Authentic Content (ออเทนติค คอนเท้นท์ )
อะไรคือ Authentic Content ซึ่งก็คือ โพสต์อะไรก็ได้ ขอเป็นแบบของเรา ไม่ก้อปปี้เค้ามาทั้งดุ้น และต้องไม่เรียก like comment share ซึ่งหากคนที่เพิ่งทำ Content อาจจะหายากสักหน่อย แต่สิ่งที่คุณต้องทำคือ หมันหาไอเดียจากเพจดังก็ได้แล้วมาปรับ สำหรับใครที่เป็นตัวแทนแล้ว เอาโพสต์ของเจ้าของแบรนด์มาโพสต์เป็นประจำต้องเริ่มคิด Content ตัวเองครับ
LIVE หรือ VDO ที่เอาตัวเราออกหน้ากล้อง เป็นอีกตัวอย่าง ของ Authentic Content ครับ หรือ ถ้าจะลงรูปก็ควรจะเป็นรูปที่ถ่ายเองบ้าง และไร้การโพสต์แบบขอเสียง ขอเม้นท์
2. ใช้ ฟังก์ชั่นต่างๆ ของ เพจให้ครบ
ในสเตตัสของเพจเอง จากรูปจะเห็นว่า มีวิธีโพสต์หลากหลาย ใครที่ชอบให้คนโหวต ก็มีให้เราสร้าง poll หรือ อยากจะให้คน Inbox ก็มี Get Message เราสามารถใช้สิ่งที่ Facebook ให้เราได้อย่างหลากหลาย หรือ ใครที่ยังไม่เคยทำ Canvas หรือ Instant Articles ก็อยากให้ลองไปใช้ดู ลองสำรวจดูว่าเรายังไม่ได้ใช้ฟีเจอร์อะไรบ้างในเพจ อาจจะได้ไอเดียการทำโพสต์ใหม่ๆก็ได้ครับ
3. ลากคนไป Platform อื่น
บนออนไลน์มี Platform ที่เหมาะกับแฟนเพจคุณมากมาย บางคนอาจเข้ามาเพียงกดไลก์แล้วจากไป แต่กลับใช้เวลาดูรูปใน IG ยาวนาน บางคนออนเฟสเพราะ ตามเพือนหรือตามกระแส แต่มีบ้างที่โพสต์เพจของคุณโผล่มาให้เค้าเห็น แต่เค้าอาจจะใช้เวลาส่วนใหญ่เล่น Line หรือ ค้นหาขัอมูลใน Google คุณก็สามารถทำแคมเปญไปเรื่อยๆ เพื่อดึงเขาไปเว็บไซต์บ้าง Line@ เราบ้าง ฯลฯ
4. เรียนรู้จากเพจแบรนด์ดังๆ และ เรียนรู้ต่อเนื่อง
อันนี้ เป็นการเรียนรู้ทั้งจากองค์กรที่เป็นระดับโลก หรือในประเทศก็ได้ เพราะ องค์กรเหล่านี้ มักจ้างเอเจนซี่โฆษณาเป็นคนทำ เราแค่คอยมอนิเตอร์ ดูไอเดียของเขา แล้วมาประยุกต์ใช้
นอกจากนี้ คุณยังคงต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ในด้านการตลาดดิจิทัล ที่ในปัจจุบัน มีความรู้ให้คุ้ย ให้ค้นเยอะมากทั้งไทยและเทศ แล้วก็นำไอเดีย มาลองปรับใช้ดู หรือ ที่คุณกำลังอ่านบทความจาก blog kruboydigital.com อยู่ หรือเพจ Kruboydigital- ครูบอย ก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้เช่นกัน คร้าบ (แหะ ๆ #ขายของสักหน่อย )
5. ลงโฆษณาให้โดน และเจาะกลุ่มมากขึ้น
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ยุคนี้ อยากโตบน Facebook เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องซื้อ Facebook Ads ให้เป็น ปี 2017 เป็นปีที่ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ นักการตลาดออนไลน์ เรียนรู้ที่จะใช้ Facebook Ads ให้เกิดผล แต่ปีนี้ ต้องมากกว่านั้น
คุณต้องเข้าใจแล้วว่า การเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบลึกขึ้น และหมดยุคของการสร้างโพสต์เดียวแล้วกดโปรโมทโพสต์ คุณต้องเริ่มแตะคำว่า Ads Expert ให้มากขึ้น รู้จัก A/B Testing รู้จัก Custom Audience รู้จัก Objectives ต่างๆ ของ Facebook เพื่อใช้ให้ถูกจริตของสินค้าและโปรโมชั่น
และครูบอยก็เชื่ออย่างนึงว่า เหตุที่ Facebook ปรับอัลกอริทึ่ม ไม่ใช่แค่ให้เกิดประโยชน์กับผู้ใช้ แต่ต้องการให้คุณซื้่อ Ads เค้าเพิ่ม เพราะยังไง Facebook ไม่ใช่องค์กรกุศลนี่หน่า เนาะ ใน Wikipedia ยังบอกไว้เลย Facebook is an American for-profit corporation ก็ต้องหาวิธีดูดเงินจาก Publisher หรือ คนลง Ads เรื่อยๆ อยู่นั่นเอง อยู่ที่เราจะฉลาดใช้อย่างไร
เป็นไงบ้างครับ ถ้าคุณอ่านถึงบรรทัดนี้ ครูอยากจะบอกว่า คุณนี่เป็น Generation ที่ยังคงไว้ซึ่ง สมาธิและตั้งใจมากๆ และครูบอยหวังว่า บทความนี้ จะเป็นปรธโยชน์ในการปรับใช้กับธุรกิจออนไลน์ของคุณครับ
ขอให้สำเร็จ
– ครูบอย –
คลิปสำหรับคนไม่สะดวกอ่านยาวๆ
===========================
ติดตามเรื่องการตลาดออนไลน์ การค้าการขายออนไลน์ได้ที่
? Website : www.kruboydigital.com
? Facebook : www.facebook.com/kruboydigital
? Youtube : www.youtube.com/kruboydigital
? Instagram : www.instagram.com/kruboydigital
? LINE@ ID : @kruboydigital หรือ กดที่นี่ > https://goo.gl/Y5CRSY (เฉพาะอ่านบทความนี้บนมือถือเท่านั้น)
=========================